สำนักงานปรมาณูสากลหรือไอเออีเอออกมาชี้แจงว่าวิกฤตนิวเคลียร์ที่ญี่ปุ่นไม่เหมือนกับที่เชอร์โนบิลแม้ว่าญี่ปุ่นจะยกระดับความรุนแรงขึ้นมาเทียบเท่าก็ตาม

นายเดนนิส ฟลอรี่ย์ เจ้าหน้าที่จากสำนักปรมาณูสากลหรือไอเออีเอออกมาชี้แจงในระหว่างการแถลงข่าวที่สำนักงานใหญ่ IAEA ที่กรุงเวียนนาเมื่อวานนี้ระบุว่าวิกฤตนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะหมายเลข 1 ของญี่ปุ่นไม่เหมือนกับวิกฤตนิวเคลียร์ที่เชอร์โนบิลของยูเครน แม้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะยกระดับวิกฤตนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะจากระดับ 5 ขึ้นเป็นระดับ 7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเทียบเท่าอุบัติเหตุที่เชอร์โนบิลก็ตาม โดยกล่าวว่าเตาปฎิกรณ์ที่โรงไฟฟ้าเชอร์โนบิลได้เกิดระเบิด แต่ที่ฟูกุชิมะยังไม่มีการระเบิด แม้จะมีการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีก็ตามแต่ปริมาณที่รั่วไหลก็มีเพียงร้อยละ 10 ของที่เชอร์โนบิล และว่าระดับความรุนแรงที่ 7 ของโรงไฟฟ้าฟูกุชิมะเป็นเพียงระดับชั่วคราว นอกจากนี้จากการตรวจวัดระดับสารกัมมันตรังสีในตัวอย่างอาหารก็พบว่ามีระดับต่ำกว่าที่กำหนดตามมาตรฐานญี่ปุ่นแล้ว

ขณะที่นายกรัฐมนตรีนาโอโตะ ตันของญี่ปุ่นได้เปิดแถลงข่าวเมื่อวานนี้ยืนยันว่าการปรับระดับความรุนแรงของวิกฤตนิวเคลียร์ฟูกุชิมะให้เพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 7 ไม่ได้หมายความว่าสถานการณ์นิวเคลียร์ที่ญี่ปุ่นจะเลวร้ายลง เพียงแต่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้าไปตรวจวัดระดับสารกัมมันตรังสีที่รั่วไหลภายในโรงไฟฟ้า ข้อมูลก่อนหน้านี้จึงไม่ชัดเจน และว่าสถานการณ์นิวเคลียร์ขณะนี้ดีขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ก็ได้สั่งการให้การไฟฟ้าญี่ปุ่นหรือเทปโก้ยุติวิกฤตนิวเคลียร์โดยเร็วที่สุด รวมทั้งขอให้พรรคฝ่ายค้านอนุมัติร่างงบประมาณเพื่อการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย พร้อมกันนี้เรียกร้องให้ชาวญี่ปุ่นออกมาจับจ่ายซื้อของโดยเฉพาะผลผลิตจากพื้นที่ประสบภัยเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่น และเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งนี้ญี่ปุ่นเตรียมเพิ่มงบประมาณจำนวน 4 ล้านล้านเยน โดยแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการเก็บกวาดซากปรักหักพัง, สร้างบ้านชั่วคราวและฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ก็จะจัดสรรงบอีก 1 ล้านล้านเยนสำหรับช่วยเหลือผู้ตกงาน

ขอบคุณครอบครัวข่าว 13/4/54